การอุดฟันมีกี่แบบ เลือกแบบไหนดี? หลายคนสงสัยว่าการอุดฟันมีกี่แบบและควรเลือกอุดฟันแบบใดจึงจะเหมาะสมกับสภาพฟันของแต่ละคน ที่สำคัญคือต้องเข้าใจว่าวัสดุอุดฟันแต่ละชนิดมีข้อดีข้อเสียต่างกัน เพื่อช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
วัสดุอุดฟันที่นิยมใช้
วัสดุอุดฟันมีหลายชนิด แบ่งตามวิธีการอุดได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ การอุดโดยตรง (direct filling) ที่ทันตแพทย์กรอและอุดทันทีในปากผู้ป่วย 1 ครั้ง โดยวัสดุอุดโดยตรงที่ใช้บ่อยได้แก่ อมัลกัม, เรซินคอมโพสิต และแก้วไอโอโนเมอร์ และ การอุดแบบอ้อม (indirect filling) เช่น อินเลย์ ออนเลย์ หรือครอบฟันที่ทำจากทองคำหรือเซรามิก ซึ่งจะต้องทำในห้องแลปก่อนนำมาใส่บนฟัน. การเลือกวัสดุอุดฟันขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งและขนาดของรอยผุ รวมถึงความแข็งแรงและความสวยงามที่ต้องการ เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
อมัลกัม (โลหะสีเงิน)
หนึ่งในวัสดุอุดฟันมาตรฐานที่ใช้กันมาช้านานคือ อมัลกัม (Amalgam) อมัลกัมทำจากผสมโลหะต่างๆ ได้แก่ ปรอท, เงิน, ดีบุก, ทองแดง ฯลฯ ซึ่งทำให้วัสดุมีสีเงินเด่นชัด. ข้อดีของอมัลกัมคือมีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อแรงบดเคี้ยวได้ดี และราคาถูกกว่าวัสดุอุดสีขาวชนิดอื่น จึงมักใช้กับฟันกรามหลังที่ต้องรับแรงบดทนที่สุด. อย่างไรก็ตาม อมัลกัมก็มีข้อเสียเช่นกัน ได้แก่ มีส่วนผสมของปรอทซึ่งก่อให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัย, วัสดุมีสีเงินชัดเจนทำให้ความสวยงามน้อยกว่า, ต้องกรอฟันออกมากกว่าวัสดุสีขาว และต้องรอประมาณ 24 ชั่วโมงหลังการอุดเพื่อให้วัสดุแข็งตัวสมบูรณ์
คอมโพสิต (สีเหมือนฟัน)
อีกหนึ่งวัสดุยอดนิยมคือ เรซินคอมโพสิต หรืออุดฟันสีขาว ที่ผสมเรซินกับผงแก้วหรือควอตซ์ คอมโพสิตให้ความทนทานในระดับปานกลางและสามารถใช้กับฟันหน้าและฟันกรามได้ดี ข้อดีของคอมโพสิตคือไม่มีสารปรอท, ให้สีสวยงามเหมือนฟันธรรมชาติ, สามารถใช้เคี้ยวอาหารได้ทันทีหลังการอุดโดยไม่ต้องรอนานและไม่ต้องกรอฟันเยอะ. อย่างไรก็ดี คอมโพสิตมีข้อเสียคือ ราคาแพงกว่าอมัลกัม (กระบวนการผลิตซับซ้อนกว่า), ใช้เวลาอุดฟันนานกว่า และหากรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เช่น ชา กาแฟ หรือบุหรี่ จะทำให้วัสดุอาจติดสีได้
แก้วไอโอโนเมอร์ (Glass Ionomer)
แก้วไอโอโนเมอร์ เป็นวัสดุอุดฟันสีใสคล้ายฟัน ทำจากผงแก้วซิลิก้า วัสดุชนิดนี้ทนทานน้อยกว่าคอมโพสิต แต่มีคุณสมบัติพิเศษคือตัววัสดุสามารถปล่อยฟลูออไรด์ออกมาช่วยป้องกันฟันผุได้. นิยมใช้ในกรณีอุดชั่วคราวหรืออุดฟันน้ำนมของเด็ก รวมถึงบริเวณรอบๆ เหงือกที่รับแรงบดเคี้ยวน้อย. แม้ความทนทานจะน้อยกว่าอมัลกัมหรือคอมโพสิต แต่แก้วไอโอโนเมอร์มีประโยชน์ในการป้องกันฟันผุซ้ำในระยะยาวโดยช่วยเสริมแร่ธาตุให้ฟัน.
วัสดุอื่นๆ (ทองคำ, เซรามิก, ครอบฟันเหล็ก)
นอกจากวัสดุอุดฟันหลักแล้ว ยังมีวัสดุอุดฟันแบบอ้อมอื่นๆ ที่ใช้ในบางกรณี ได้แก่ ทองคำ และ วัสดุเซรามิก/พอร์ซเลน ทองคำเป็นโลหะที่ใช้ทำอินเลย์/ออนเลย์ มีความทนทานสูงมากแต่มีราคาสูงและสีทองโดดเด่นต่างจากสีฟัน. ส่วนเซรามิกหรือพอร์ซเลนมีสีใกล้เคียงฟันจริง สวยงามทนทานเทียบเท่าทองคำ แต่ต้องทำในห้องแลปและมีราคาสูงเช่นกัน. อีกทั้งกรณีเด็กที่มีฟันน้ำนมผุมากจนการอุดแบบธรรมดาไม่เพียงพอ แพทย์มักเลือกใช้ ครอบฟันสแตนเลส (โลหะเหล็ก) แทน เพื่อปกป้องฟันไว้จนครอบหลุดก่อนเวลาที่ควรอย่างปลอดภัย
วิธีเลือกวัสดุอุดฟันที่เหมาะสม
การเลือกวัสดุอุดฟันให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ขนาดและตำแหน่งของรอยผุ (ฟันหน้า/ฟันกราม), อายุผู้ป่วย, แรงบดเคี้ยวที่ฟันนั้นจะรับ, ความสวยงามที่ต้องการ และงบประมาณ. ทันตแพทย์จะแนะนำวัสดุเฉพาะตามแต่ละเคส เช่น หากผุอยู่ในฟันกรามหลังที่รับแรงมาก อาจเลือกวัสดุทนทานอย่างอมัลกัมหรือทองคำ แต่หากเป็นฟันหน้าก็อาจเลือกคอมโพสิตที่สวยงามเหมือนฟัน. สิ่งสำคัญคือควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อประเมินวัสดุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสภาพฟันของแต่ละคน
การเลือกตามกลุ่มผู้รับการรักษา
ในเด็ก
เด็กเป็นกลุ่มที่ต้องการการรักษาเฉพาะทาง ในเด็กเล็กที่มีฟันน้ำนมผุมากจนอุดฟันธรรมดาไม่พอ ทันตแพทย์มักใช้ ครอบฟันสแตนเลส (โลหะ) เพื่อปกป้องฟันไว้จนกว่าฟันจะหลุดเอง สำหรับฟันน้ำนมที่ผุไม่มาก หรือต้องการความสวยงาม เด็กโตขึ้น การอุดด้วยคอมโพสิตหรืออมัลกัมก็เป็นทางเลือกที่ดี, โดยคอมโพสิตได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะไม่มีสารปรอทและสีเหมือนฟัน นอกจากนี้ แก้วไอโอโนเมอร์ยังใช้ได้บ่อยในกรณีอุดฟันน้ำนมของเด็ก เพราะช่วยปล่อยฟลูออไรด์และถนอมฟันได้ดี
ในผู้ใหญ่และผู้จัดฟัน
ผู้ใหญ่หรือวัยรุ่นที่มีฟันถาวร หากมีฟันผุ ตำแหน่งและความต้องการจะเป็นตัวกำหนดการเลือกวัสดุ. ฟันหน้ามักเลือกคอมโพสิตสีเหมือนฟันเพื่อความสวยงาม ส่วนฟันกรามหลังที่บดเคี้ยวมากอาจเลือกอมัลกัมที่แข็งแรง. สำหรับผู้จัดฟัน ที่มีลวดและอุปกรณ์ในปาก การอุดด้วยคอมโพสิตยังคงเป็นทางเลือกยอดนิยมเพราะไม่ทำให้อุปกรณ์โดดเด่น และให้ความสวยงามเช่นเดียวกับฟันจริง. แต่ถ้าฟันหลุดหรือกรามหลังที่ไม่ต้องเน้นความสวยงามมาก อมัลกัมก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า
ตารางเปรียบเทียบวัสดุอุดฟัน
วัสดุอุดฟัน | ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|---|
อมัลกัม (สีเงิน) | แข็งแรง ทนทาน ราคาถูก | มีปรอท ต้องกรอฟันมาก สีเห็นชัด |
คอมโพสิต (สีฟัน) | สีสวยเหมือนฟัน ไม่มีปรอท ใช้เคี้ยวได้ทันที | ราคาแพงกว่า อุดนานกว่า อาจติดสีอาหาร |
แก้วไอโอโนเมอร์ | สีใสคล้ายฟัน ปล่อยฟลูออไรด์ ป้องกันฟันผุ | ทนทานน้อย ต้องใช้กับบริเวณรับแรงบดเคี้ยวน้อย |
ทองคำ | ทนทานสูงมาก | ราคาสูง สีทองไม่เป็นธรรมชาติ |
เซรามิก/พอร์ซเลน | สวยงาม สีคล้ายฟัน ทนทาน | ราคาแพง ต้องทำในแลป |
ครอบฟันสแตนเลส | เหมาะสำหรับฟันน้ำนมผุมาก ทนทาน | สีโลหะชัดเจน ต้องเปลี่ยนเมื่อฟันหลุด |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. อุดฟันมีกี่แบบ ควรเลือกแบบไหนดี?
วัสดุอุดฟันหลักๆ มีหลายแบบ ได้แก่ อมัลกัม, คอมโพสิต, แก้วไอโอโนเมอร์ รวมทั้งวัสดุแบบอ้อมอย่างทองคำหรือเซรามิก การเลือกวัสดุขึ้นกับตำแหน่งรอยผุ, ความแข็งแรงที่ต้องการ และงบประมาณที่มี แนะนำให้ปรึกษาทันตแพทย์เพื่อเลือกวัสดุที่เหมาะสมที่สุดตามสภาพช่องปากของแต่ละคน
2. คอมโพสิตดีกว่าอมัลกัมจริงหรือ?
คอมโพสิตและอมัลกัมต่างก็มีจุดเด่นต่างกัน. อมัลกัมแข็งแรง ทนทาน ราคาถูก แต่มีสีเงินโดดเด่น ในขณะที่คอมโพสิตสวยเหมือนฟันและไม่มีสารปรอท แต่ราคาสูงกว่า. ดังนั้นวัสดุใดดีกว่าขึ้นกับความต้องการใช้งานและคำแนะนำของทันตแพทย์
3. อุดฟันด้วยอมัลกัมมีสารปรอทอันตรายหรือไม่?
สมาคมทันตแพทย์อเมริกา (ADA) และองค์การอาหารและยา (FDA) ระบุว่าการอุดฟันด้วยอมัลกัมที่มีปรอทนั้นปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ อย่างไรก็ดี ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก หรือผู้ที่แพ้ปรอท อาจเลือกใช้วัสดุสีขาวแทนเพื่อความปลอดภัย
4. อุดฟันแล้วจะอยู่ได้นานแค่ไหน?
อายุการใช้งานของการอุดฟันขึ้นกับวัสดุและการดูแลรักษา. โดยทั่วไปการอุดฟันด้วยอมัลกัมหรือทองคำสามารถอยู่ได้นาน 10–20 ปี ส่วนคอมโพสิตอาจอยู่ได้สั้นกว่านั้นเล็กน้อย. การรักษาความสะอาดช่องปากเป็นประจำจะช่วยให้อุดฟันคงทนยาวนานมากขึ้น
5. อุดฟันแล้วเจ็บไหม?
โดยปกติการอุดฟันไม่ควรเจ็บ เพราะทันตแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณฟันที่ต้องอุด หากรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายระหว่างทำการรักษา ให้แจ้งทันตแพทย์ทันทีเพื่อขอยาชาเพิ่มเติม
6. อุดฟันแล้วจะไม่ผุต่อใช่ไหม?
การอุดฟันเป็นการป้องกันไม่ให้ฟันผุขยายตัวเพิ่ม แต่ฟันที่อุดแล้วยังมีโอกาสผุซ้ำได้ถ้าหากไม่ดูแลความสะอาดให้ดี ควรแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำเพื่อป้องกันฟันผุต่อเนื่องบริเวณรอยอุดหรือซี่อื่นๆ
อ่านเพิ่มเติม: