รากฟันเทียมเหมาะกับใคร

รากฟันเทียมเหมาะกับใคร

หากคุณสูญเสียฟัน ไม่ว่าจะจากฟันผุ อุบัติเหตุ หรือฟันโยกจนต้องถอนออก คำถามแรก ๆ ที่มักจะเกิดขึ้นคือ “ควรใส่ฟันปลอมแบบไหนดี?” และหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมในยุคนี้ก็คือ “รากฟันเทียม” (Dental Implant)

แต่ รากฟันเทียมเหมาะกับทุกคนหรือไม่? ควรทำเมื่อไหร่? แล้วใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง? บทความนี้มีคำตอบให้คุณครับ

รากฟันเทียมคืออะไร?

รากฟันเทียม คือ อุปกรณ์ที่ฝังเข้าไปในกระดูกขากรรไกร ทำหน้าที่แทนรากฟันธรรมชาติ โดยวัสดุที่ใช้จะเป็น “ไทเทเนียม” ซึ่งปลอดภัย และเข้ากับร่างกายได้ดี ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือผลข้างเคียง

เมื่อฝังรากเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะต่อฟันปลอม (ครอบฟัน) ไว้ด้านบน ทำให้ใช้งานได้เหมือนฟันจริง ทั้งการเคี้ยว พูด และรอยยิ้ม

รากฟันเทียมเหมาะกับใคร?

1. คนที่สูญเสียฟันเพียง 1–2 ซี่

หากคุณเสียฟันซี่ใดซี่หนึ่ง (โดยเฉพาะฟันหน้า) รากฟันเทียมสามารถทดแทนได้อย่างแนบเนียนที่สุด โดยไม่ต้องกรอฟันข้างเคียงแบบสะพานฟัน (bridge)

2. คนที่มีสุขภาพช่องปากดี

ผู้ที่ไม่มีปัญหาโรคเหงือก กระดูกขากรรไกรแข็งแรง ไม่มีฟันผุหรือติดเชื้อ ก็ถือว่าเหมาะมาก เพราะสามารถฝังรากเทียมและใช้งานได้ยาวนาน

3. คนที่ไม่ชอบใส่ฟันปลอมถอดได้

ฟันปลอมถอดได้อาจหลวม ไม่มั่นคง และต้องดูแลหลายขั้นตอน หากคุณอยากมี “ฟันใหม่ที่รู้สึกเหมือนฟันจริง” รากเทียมคือทางเลือกที่ดีที่สุด

4. คนที่ใส่ใจความสวยงาม

รากฟันเทียมช่วยคืนรอยยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีเหล็กหรือโครงลวดให้เห็น ทำให้ยิ้มได้มั่นใจขึ้นมาก

5. คนที่ต้องการฟันที่อยู่กับเราได้ “ระยะยาว”

รากฟันเทียมสามารถอยู่ได้นานหลายสิบปี หากดูแลดี ถือว่าเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า

รากฟันเทียม “ไม่เหมาะ” กับใคร?

แม้จะดีขนาดไหน รากฟันเทียมก็ไม่เหมาะกับทุกคน

1. ผู้ที่มีกระดูกขากรรไกรไม่เพียงพอ

ถ้ากระดูกบริเวณที่ต้องฝังรากบางเกินไป รากฟันอาจไม่สามารถยึดติดได้ (แต่สามารถปลูกกระดูกเพิ่มได้ในบางกรณี)

2. ผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรง

โดยเฉพาะเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ โรคเลือด หรือโรคที่ต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกัน

3. ผู้ที่สูบบุหรี่จัด

การสูบบุหรี่ทำให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณแผลได้ไม่ดี อาจทำให้รากไม่ยึดติดหรือเกิดการอักเสบได้ง่าย

4. เด็กหรือวัยรุ่นที่กระดูกยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่

ข้อดีของรากฟันเทียม

  • ใช้งานได้เหมือนฟันจริง

  • ยึดแน่น ไม่ต้องถอด

  • สวยงาม ไม่เห็นโลหะ

  • ไม่ต้องกรอฟันข้างเคียง

  • ป้องกันกระดูกขากรรไกรยุบตัว

  • เพิ่มความมั่นใจเมื่อพูด ยิ้ม หรือหัวเราะ

ขั้นตอนการทำรากฟันเทียม

  1. ตรวจสุขภาพช่องปากและ X-ray
    เพื่อดูความแข็งแรงของกระดูก

  2. ฝังรากเทียม
    ใช้เวลาประมาณ 1–2 ชม. ต่อซี่

  3. พักให้รากยึดเกาะ 
    รอประมาณ 2–4 เดือน

  4. ใส่ครอบฟันปลอม
    เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่ทำให้สามารถใช้งานจริงได้

ทำรากฟันเทียมที่ไหนดีในระยอง?

หากคุณอยู่ระยอง และมองหาคลินิกที่มีความชำนาญ แนะนำ Beyond Smile Dental Clinic
คลินิกที่มีทีมทันตแพทย์เฉพาะทาง เครื่องมือทันสมัย และบริการเป็นกันเอง พร้อมผ่อนชำระ 0% และให้คำปรึกษาฟรี

สรุป: รากฟันเทียมเหมาะกับใคร?

หากคุณมีฟันหาย อยากกลับมายิ้มสวย เคี้ยวอาหารได้ดี และไม่ต้องการฟันปลอมแบบถอดได้ รากฟันเทียมคือคำตอบที่คุณควรพิจารณา

You can share this post!

Facebook
LinkedIn
Email
Print