การขูดหินปูนสำคัญอย่างไร

การขูดหินปูนสำคัญอย่างไร

การขูดหินปูนสำคัญอย่างไร คำถามนี้มีคำตอบอยู่ที่การป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปาก การขูดหินปูน คือการทำความสะอาดฟันโดยทันตแพทย์เพื่อขจัดคราบแข็งหรือ คราบหินปูน ที่เกิดจากการสะสมของแบคทีเรียและเศษอาหารบนผิวฟัน คราบหินปูนดังกล่าวเป็นสาเหตุสำคัญของโรคเหงือกอักเสบ ฟันผุ และกลิ่นปาก หากปล่อยทิ้งไว้นาน สุขภาพช่องปากจะเสื่อมสภาพได้ง่าย ในทางการแพทย์ การขูดหินปูนจึงเป็นขั้นตอนสำคัญหนึ่งในการดูแลช่องปากให้แข็งแรง

ประโยชน์ของการขูดหินปูน

การขูดหินปูนมีประโยชน์หลายประการต่อสุขภาพช่องปาก ได้แก่ ป้องกันโรคเหงือกอักเสบ ลดกลิ่นปาก ป้องกันฟันผุ และทำให้ฟันสะอาดแข็งแรง โดยสรุป การขูดหินปูนช่วยกำจัดแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียบนผิวฟัน ช่วยรักษาช่องปากให้มีสุขภาพดี ตัวอย่างประโยชน์หลัก ๆ ได้แก่:

  • ป้องกันโรคเหงือกอักเสบ: ขจัดคราบแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการอักเสบของเหงือก

  • ลดกลิ่นปาก: กำจัดคราบหินปูนที่เป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียก่อกลิ่นไม่พึงประสงค์

  • ป้องกันฟันผุ: หินปูนเป็นแหล่งของแบคทีเรียที่สร้างกรดกัดเซาะผิวฟัน การขูดหินปูนจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุ

  • ทำให้ฟันสะอาดและสวยขึ้น: ช่วยขจัดคราบหินปูนและคราบสีจากอาหาร ทำให้ผิวฟันเรียบเนียนและดูขาวขึ้น

  • เพิ่มความมั่นใจในการยิ้ม: ฟันที่สะอาดดูสุขภาพดี ช่วยให้เรากล้ายิ้มและพูดคุยกับผู้อื่นได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

ใครบ้างที่ควรขูดหินปูน

ผู้ที่ควรขูดหินปูนครอบคลุมทุกคนที่มีฟัน เพราะคราบหินปูนจะเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะกลุ่มดังต่อไปนี้:

  • เด็กและวัยรุ่น: แม้จะเป็นวัยที่เพิ่งมีฟันซี่แรก การขูดหินปูนก็ช่วยป้องกันปัญหาในอนาคต ควรเริ่มทำเมื่อลูกมีฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น (ประมาณอายุ 6 เดือน) และทำเป็นประจำทุก 6 เดือน

  • ผู้สูงอายุ: ในวัยสูงอายุ เหงือกมักถดถอยและมีความเสี่ยงสูงต่อโรคปริทันต์ การขูดหินปูนช่วยชะลอการสะสมของแบคทีเรียใต้เหงือก ป้องกันการสูญเสียกระดูกเบ้าฟัน ช่วยให้ฟันยังคงติดแน่นอยู่ได้นานขึ้น

  • ผู้จัดฟัน: ระหว่างการจัดฟันมีอุปกรณ์ติดตามฟันที่ทำความสะอาดได้ยาก ช่องว่างเหล่านี้จะสะสมคราบหินปูนได้ง่าย การขูดหินปูนทุก 3–6 เดือน จะลดการสะสมของแบคทีเรีย ป้องกันเหงือกอักเสบและฟันผุที่มักเกิดขึ้นขณะจัดฟัน

  • ผู้ที่มีปัญหาช่องปากเรื้อรัง (โรคเหงือก/ปริทันต์): ผู้ป่วยโรคเหงือกอักเสบหรือปริทันต์ควรขูดหินปูนเป็นประจำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ เพื่อชะลอการลุกลามของโรคและป้องกันการสูญเสียฟันในอนาคต

ขูดหินปูน

ควรขูดหินปูนบ่อยแค่ไหน

ทันตแพทย์มักแนะนำให้ขูดหินปูนเป็นประจำทุก ๆ 6 เดือน (ปีละ 2 ครั้ง) เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพฟันในระยะยาว บางราย เช่น ผู้ป่วยโรคเหงือกหรือผู้จัดฟัน อาจต้องขูดบ่อยกว่านั้นตามคำแนะนำทันตแพทย์ (3–4 เดือนครั้ง) เพื่อรักษาช่องปากที่ดี. ตารางด้านล่างแสดงคำแนะนำทั่วไปตามกลุ่มบุคคลต่าง ๆ:

กลุ่มผู้เข้ารับบริการ คำแนะนำการขูดหินปูน
บุคคลทั่วไป (สุขภาพช่องปากปกติ) ทุก 6 เดือน (ปีละ 2 ครั้ง)
เด็ก (มีฟันน้ำนม) ทุก 6 เดือน ตั้งแต่มีฟันซี่แรกขึ้น (ประมาณ 6 เดือน)
ผู้สูงอายุ/มีโรคเหงือก ทุก 3–4 เดือน ตามคำแนะนำทันตแพทย์
ผู้จัดฟัน ทุก 3–6 เดือน เพื่อป้องกันคราบแบคทีเรียสะสม

การดูแลหลังขูดหินปูน

หลังขูดหินปูนแล้ว เหงือกอาจบอบบางและรู้สึกเสียวฟันหรือมีเลือดออกเล็กน้อยประมาณ 1–2 วันแรก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติเพื่อช่วยลดอาการดังกล่าวและป้องกันการกลับมาของคราบแบคทีเรีย ควรปฏิบัติดังนี้:

  • แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันตามปกติ: ควรแปรงฟันอย่างถูกวิธี อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และใช้ไหมขัดฟันช่วยขจัดคราบอาหารตามซอกฟัน

  • หลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้อนหรือเย็นจัด: ใน 1–2 วันแรกหลังขูดหินปูน เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้ง่าย.

  • มาตรวจฟันตามนัด: กลับมาพบทันตแพทย์เพื่อตรวจช่องปากและขูดหินปูนตามนัด (แนะนำทุก 6 เดือน) เพื่อรักษาสุขภาพช่องปากให้ดี

คำถามที่พบบ่อย

Q: ขูดหินปูนเจ็บหรือไม่?
A: โดยทั่วไปอาจรู้สึกเสียวฟันหรือระคายเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากเครื่องมือขูดจะสัมผัสผิวฟันโดยตรง อาการเสียวฟันมักหายไปเองภายใน 1–2 วัน หลังขูดหินปูน

Q: ควรขูดหินปูนบ่อยแค่ไหน?
A: ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำให้ขูดหินปูนปีละ 2 ครั้ง หรือทุก 6 เดือน เพื่อสุขภาพฟันที่ดี อย่างไรก็ดี ในเด็กควรเริ่มขูดเมื่อลูกมีฟันซี่แรกขึ้น (ประมาณ 6 เดือน) และทำเป็นประจำทุก 6 เดือน

Q: มีผลเสียอะไรถ้าไม่ขูดหินปูน?
A: หากปล่อยให้คราบหินปูนสะสมบนฟันมากขึ้น จะก่อให้เกิดโรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์ได้ง่าย ในระยะยาวอาจเกิดการทำลายกระดูกเบ้าฟัน ทำให้ฟันโยกจนต้องถอนออก และส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน

Q: ขูดหินปูนแล้วฟันจะขาวขึ้นไหม?
A: การขูดหินปูนช่วยขจัดคราบและหินปูนที่ทำให้ฟันมีคราบสี จึงช่วยให้ฟันดูสะอาดและขาวขึ้นเล็กน้อยได้ อย่างไรก็ตาม การดูแลสุขอนามัยช่องปากต่อเนื่องยังสำคัญต่อการรักษาความขาวของฟันในระยะยาว

อ่านเพิ่มเติม:

You can share this post!

Facebook
LinkedIn
Email
Print